มาเลเซียได้เริ่มทบทวน (sunset review) ในการบังคับใช้ภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด (antidumping duties) ที่บังคับใช้กับเหล็กแผ่นเคลือบ (coated flat steel) จากจีน เกาหลีใต้ และเวียดนาม กระทรวงการลงทุน (Ministry of Investment) และกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของมาเลเซีย (Trade and Industry) กล่าวเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน
อัตราภาษีเริ่ม ตั้งแต่ 0% ถึง 37.14% ของราคาส่งออก เนื่องจากฉบับเดิมจะหมดอายุในวันที่ 11 ธันวาคม 2025 หลังจากผ่านไป 5 ปี และครอบคลุมผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนไม่เจือชุบหรือเเคลือบด้วยอลูมิเนียมและสังกะสี (flat-rolled products of non-alloy steel plated or coated with aluminum and zinc)
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบอยู่ภายใต้รหัส HS และรหัสภาษีศุลกากร (อาเซียน) 7210.61.1100, 7210.61.1200, 7210.61.1900, 7210.61.9100, 7210.61.9200, 7210.61.9900, 7212.50.2300, 7212.50.2490, 7212.50.2910 และ 7212.50.2990
โดยผู้ผลิตเหล็กของเวียดนาม 2 ราย ได้รับการยกเว้นจากภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด ในเดือนสิงหาคม 2023
“ผู้มีส่วนได้เสียที่อาจได้รับผลกระทบจากการยุติการจัดเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสามารถแสดงความคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรได้” กระทรวงกล่าว โดยควรจะส่งความเห็นภายในวันที่ 11 กรกฎาคม
กระทรวงฯ กล่าวว่า มุมมองของทั้งสองฝ่ายควรพิจารณาว่า “การเรียกเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดอย่างต่อเนื่องนั้นจำเป็นหรือไม่ในการชดเชยการทุ่มตลาดของสินค้าที่เป็นปัญหา” ตลอดจน “ความเสียหายน่าจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปหรือไม่ หากมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงภาษีดังกล่าว”
ตามรายงานของ Malaysian Iron & Steel Industry Federation and the Malaysia Steel Association ระบุว่า ประเทศดังกล่าวยังคงมีความเสี่ยงสูงต่อการนำเข้าและการทุ่มตลาดที่ไม่เป็นธรรม และมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นแหล่งทุ่มตลาดของเหล็กส่วนเกินจากทั่วโลก
ซึ่งมาเลเซียประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดไปแล้ว กับผลิตภัณฑ์ coated iron or non-alloy steel flat-rolled products จากจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม โดยมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 5 ปี
---S&P Global Commodity Insights